Thursday, July 31, 2014

ออร์แลนโด บลูม (Orlando Bloom) สาวหมัดใส่ จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) กลางร้านอาหาร

จัสติน บีเบอร์ โพสต์รูปเมียเก่า ออร์แลนโด บลูม หลังมีปัญหากันในร้านอาหารจนพระเอกหนุ่มออกหมัดใส่นักร้องขาโจ๋ ยังดีที่นักร้องดังยังหลบได้ทันและมีคนห้ามกันชุลมุน


ออร์แลนโด บลูม เปิดศึก จัสติน บีเบอร์  โดยเมื่อช่วงเช้าของวันพุธที่ 30 กค. (ตามเวลาท้องถิ่น) ระหว่างอยู่ในร้านอาหาร ออร์แลนโด บลูม  พระเอกหนุ่ม มีเรื่องชกต่อยกับ  โจ๋เจ้าปัญหา จัสติน บีเบอร์ จนต้องมีคนมาแยกทั้งสองออกไป พอตกเย็นวันนั้น จัสตินก็โพสต์รูป นางแบบสุดแซ่บ เมียเก่าของออร์แลนโด  มิรันดา เคอร์ (Miranda Kerr) ในชุดบิกินี่สีส้มอวดอกตู้มๆ ลงอินสตาแกรมพร้อมข้อความชมเชยในความเซ็กซี่ก่อนจะลบออกในเวลาต่อมา

คงต้องมารอดูกันว่าเรื่องบาดหมาดของ ออร์แลนโด กับ จัสติน จะลงเอยยังไง เพราะต่างคนต่างเคยมีข่าวกิ๊กกับแฟนสาวของทั้งคู่ เริ่มจากเมื่อปี 2012 จัสติน เคยปาร์ตี้กับมิรันดาในช่วงที่ยังครองรักกับออร์แลนโด ส่วนทางด้านของออร์แลนโด หลังจากหย่าขาดจากมิรันดาในปี 2013 ก็เคยมีข่าวว่าไปเที่ยวกับแฟนเก่าของจัสตินอย่าง เซเลน่า โกเมซ (Selena Gomez) เมื่อราวเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ก็ดูเหมือนเรื่องระหว่างคนสองคู่จะไม่มีอะไรในกอไผ่


ที่มา gossipstar.mthai.com

Wednesday, July 30, 2014

ไชอา ลาบัฟ(Shia LaBeouf) เผยตั้งใจเลิกเหล้าเพื่อ แบรด พิตต์(Brad Pitt)

ไชอา ลาบัฟ  เผยแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เตรียมตัดขาดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็คือความมุ่งมั่นที่เขาไม่อยากจะทำให้ แบรด พิตต์ ต้องอับอายขายหน้า ในการร่วมเดินทางไปโปรโมตภาพยนตร์แนวสงครามเรื่อง Fury ร่วมกัน


ไชอา ลาบัฟ ที่โด่งดังจากหนังชุด Transformers ที่ชีวิตพักหลังอื้อฉาวไปด้วยปัญหา และเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ มากมาย ซึ่งล้วนเกิดขึ้นจากนิสัยดื่มหนัก เตรียมงดเหล้าอย่างเด็ดขาด และเข้าบำบัดเพื่อเลิกนิสัยดื่มหนัก เพราะเจ้าตัวไม่อยากจะทำให้เพื่อนนักแสดงรุ่นพี่ “แบรด พิตต์” ต้องขายหน้าเนื่องจากทั้งสองมีกำหนดจะร่วมโปรโมตหนัง Fury ด้วยกัน
     
เมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของ ไชอา เพิ่งจะออกมาให้ข่าวว่าเขากำลังอยู่ระหว่างการบำบัดเพื่อเลิกเหล้า แต่ไม่ถึงขั้นเข้ารับการบำบัดเพื่อเลิกยาเสพติดอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ...
“เขาเข้าใจแล้วว่าพฤติกรรมหลังๆ ของตัวเองมันคือสิ่งที่สะท้อนถึงปัญหาทางสุขภาพ และกำลังก้าวไปสู่ขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อการรักษาตัว”

โดยมีแหล่งข่าวของ TMZ เปิดเผยว่านักแสดงหนุ่มวัย 28 ปี กำลังอยู่ระหว่างการบำบัดอาการติดเหล้าอย่างจริงจัง
 
สำหรับผลงานเรื่อง Fury เป็นผลงานของ เดวิด อเยอร์ ที่มีกำหนดลงโรงในสหรัฐฯ ในวันที่ 14 พ.ย. ที่จะถึงนี้ Fury เป็นหนังสงครามที่ว่าด้วยภารกิจอันตรายของทหาร 5 นายพร้อมรถถังคู่ใจ ในเขตแดนของข้าศึกโดยนอกจาก ไชอา ลาบัฟ และ แบรด พิตต์ แล้วหนังยังจะมี เจสัน ไอแซคส์, จอน เบอร์นทัล และ โลแกน เลอแมน ร่วมแสดงด้วย

Tuesday, July 29, 2014

เซเลนา โกเมซ (Selena Gomez) ฉลองวันเกิดกับ คารา เดเลอวีน (Cara Delevingne) พร้อมหนุ่มหล่อล่ำอวดหุ่นสุดเซ็กซี

นักร้องสาวชื่อดัง เซเลนา โกเมซ สร้างความประหลาดใจให้หลายคนเมื่อตอนนี้เธอเป็นเพื่อนซี้คนใหม่ของ คารา เดเลอวีน นางแบบดังเท่านี้ยังไม่พอ ในการฉลองวันเกิดอายุครบ 22 ปี เซเลนาก็สร้างความฉงนขึ้นไปอีกเมื่อแนบชิดกับ ทอมมี เชียบรา นักธุรกิจหนุ่มชาวอิตาลีที่ลือกันว่าเป็นแฟนใหม่ 


   
นักร้องสาวชื่อดัง เซเลนา โกเมซ ได้ไปฉลองวันเกิดอายุครบ 22 ปีของเธอ ที่ St. Tropez โดยได้ควง คารา เดเลอวีน นางแบบสาวที่ประกาศตัวเป็นไบเซ็กชวลไปด้วย โดยที่บรรดาปาปารัสซีต่างพากันฉงนในความสัมพันธ์ของ 2 สาวว่าจะมากเกินเพื่อนหรือเปล่า


หลังจากที่เซเลนาเองก็อยู่ในช่วงร้างราจากจัสติน บีเบอร์ และ คารา เองก็เพิ่งเลิกรากับ มิเชล โรดริเกซ คู่รักเลสเบียน แต่เนื่องจากงานนี้มีหนุ่ม ทอมมี เชียบรา ที่ลือว่าเป็นรักครั้งใหม่ของเซเลนาปรากฏตัวอยู่ท่ามกลางสาวๆ และดูเหมือนว่า เซเลนา จะสนิทสนมกับหนุ่มคนนี้มากเป็นพิเศษจนทำให้เกิดข้อสงสัยว่าความสัมพันธ์ของพวกเขา 3 คนเป็นอย่างไรกันแน่ รวมถึงความรักระหว่างจัสติน กับ เซเลนา นั้นจะรักๆ เลิกๆและมีการหรือเทิร์นกันอีกรอบหรือไม่
     
การเดินทางไปฉลองวันเกิดอายุครบ 22 ปีที่ฝรั่งเศสของ เซเลนา ครั้งนี้ เรียกได้ว่าไร้เงาของ จัสติน บีเบอร์ คนรักเก่าอย่างสิ้นเชิง โดยเห็นชัดว่าเซเลนาเองก็ต้องการจะเดินหน้าต่อแล้ว หลังจากที่ช่วงวัย 21 ปีของเธอก่อนหน้านี้ต้องจมอยู่กับปัญหารักๆเลิกๆกับจัสติน บีเบอร์ มาตลอดปี โดย เซเลนา แสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกับหนุ่มรายนี้ ด้วยการนั่งเจ็ตสกีลำเดียวกันและกอดเขาอย่างแนบชิด และฝ่ายชายยังดูแลเทคแคร์เซเลนาห่มผ้าขนหนูให้ และยังดูแลคาราเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
     
     
โดยขณะที่ เซเลนา ฉลองวันเกิดอยู่ที่ฝรั่งเศสก็มีรายงานว่า จัสติน บีเบอร์ จัดปาร์ตี้แบบมันสุดเหวี่ยงขึ้นที่บ้าน โดยมีสาวๆนุ่งน้อยห่มน้อยมาร่วมสนุกสนานมากมาย ทำให้บรรดาเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในคอนโดที่ เบเวอรี ฮิลล์ ที่เดียวกับจัสติน ต้องเรียกตำรวจมาช่วยจัดการเตือนเรื่องเสียงดังรบกวนถึง 4 ครั้งเลยทีเดียว

Monday, July 28, 2014

จัสติน บีเบอร์ (Justin Bieber) โชว์ขอบกางเกงในจนเข้าตา Calvin Klein จับมาเป็นพรีเซนเตอร์เรียบร้อย

จัสติน บีเบอร์ นักร้องหนุ่มชื่อดังโชว์ภาพเปลือยท่อนบนเผยให้เห็นขอบกางเกงชั้นในโผล่ให้เห็นบ่อยๆจนมาได้ดี เพราะแบรนด์กางเกงชั้นในชื่อดังอย่าง Calvin Klein จับเขาไปเป็นพรีเซนเตอร์เรียบร้อย


ตอนนี้นักร้องหนุ่มวัย 20 ปี ขวัญใจสาวๆ จัสติน บีเบอร์ ได้เจริญรอยตามรุ่นพี่อย่าง เคท มอสส์ ซูเปอร์โมเดลชื่อดัง รวมถึง มาร์ค วอห์ลเบิร์ก นักแสดงมากความสามารถที่ได้เข้าร่วมเป็นนายแบบให้กับบริษัทกางเกงชั้นในยักษ์ใหญ่ของโลก
     
จากการที่ จัสติน ได้โปรโมตผลงานตนเองผ่านทางอินสตาแกรมอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้หลังแฟนๆ เริ่มสังเกตเห็นว่าเจ้าตัวถ่ายภาพตนเองหรือเซลฟี (Selfie) โชว์ขอบกางเกงในลงอินสตาแกรมหลายต่อหลายภาพ
     
ซึ่งแหล่งข่าวจาก Calvin Klein ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า
“จัสตินมาถ่ายงานให้กับ Calvin Klein เราหวังว่าผลงานของเขาจะถูกปล่อยออกมาภายในปีนี้”
     
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการรายงานตัวเลขเป็นที่แน่นอนว่างานนี้จัสติน รับเงินค่าตัวไปเท่าใดกันแน่ แต่สำหรับเคท มอสส์นางแบบสาวคนดังเคยรับเงินไปมากถึง 1-4 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
     
แม้ว่าที่ผ่านมา จัสติน บีเบอร์ จะมีข่าวฉาวมากมายตั้งแต่ต้นปี แต่ดูเหมือนทาง CK ก็ไม่ได้สนใจกับความแบดบอยของนักร้องดังรายนี้เท่าใดนัก

Saturday, July 26, 2014

คิม คาร์เดเชียน (Kim Kardashian) โพสต์ชุดบิกินีลง IG

ไฮโซสาว คิม คาร์เดเชียน เชะภาพลง IG ส่วนตัว อวดหุ่นงามๆ หน้าอกสวยๆให้แฟนคลับกดไลค์เล่น ขณะไปนอนอาบแดดให้ตัวเป็นผิวสีแทน  


โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพ สาว คิม อยู่ในชุดบิกินี่สีส้มทองนอนหงาย เผยสะดือสวยๆ ท่อนขาเรียวยาว พร้อมโพสต์ข้อความว่า
"พักผ่อนวันสุดท้ายขอชุบตัวให้เป็นสีแทนซะหน่อย" (Last day to get my tan in...)
เป็นภาพระหว่างการพักผ่อนของเธอและครอบครัวที่เม็กซิโก






Friday, July 25, 2014

สการ์เล็ตต์ โยฮันส์สัน(Scarlett Johansson) เผยเตรียมแต่ง โรแม็ง ดูริแอค เดือนหน้านี้

ในที่สุดนางเอกสาวสุดเซ็กซี่  สการ์เล็ตต์ โยฮันส์สัน ก็กำลังจะมีข่าวดีให้หลายคนได้ชื่นใจแล้ว เมื่อมีข่าวลือออกมาว่า เธอจะเข้าพิธีวิวาห์กับ โรแม็ง ดูริแอค คู่หมั้นหนุ่มนักข่าวชาวฝรั่งเศส ในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ หลังจากปล่อยให้แฟนๆ รอมานาน 




เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2012 โยฮันส์สัน เริ่มคบหาดูใจกับดูริแอค จากนั้นทั้งคู่ได้ประกาศหมั้นหมายกันเมื่อช่วงเดือนกันยายน ปีก่อน แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมามันก็ไม่มีข่าวอะไรคืบหน้ามากเท่าไหร่ นอกจากเรื่องที่ว่า เธอตั้งท้องลูกคนแรกกับดูริแอค แล้ว



ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นิวยอร์ก โพสต์ หนังสือพิมพ์ของเมืองลุงแซม รายงานว่า ในตอนที่โยฮันส์สัน ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารเย็นที่จัดโดย มาร์ธ่า สจ๊วร์ต นักธุรกิจ และพิธีกรรายการโทรทัศน์คนดัง ร่วมกับคู่หมั้นของเธอ มีคนได้ยินเธอป่าวประกาศให้ชาวบ้านชาวช่องรู้กันทั่วว่า เธอจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มในอีก 4 สัปดาห์ต่อจากนี้แล้ว


ส่วนเรื่องสถานที่ที่จะใช้จัดงานแต่ง ดาราสาวจากภาพยนตร์เรื่อง ''Iron Man 2'' อุบเงียบ แต่เป็นที่คาดกันว่า เธอจะแต่งงานกับดูริแอค ที่ปารีส บ้านเกิดของคู่หมั้นของเธอเอง หรือไม่ก็ที่แฮมป์ตันส์ ที่พวกเขาไปเดตกันซะนานเมื่อช่วงซัมเมอร์


นางเอกสาวสุดเซ็กซี่ สการ์เล็ตต์ โยฮันส์สัน เคยแต่งงานกับพระเอกหนุ่มสุดหล่อ ไรอัน เรย์โนลด์ส เมื่อปี 2008 โดยพวกเขาได้อยู่ด้วยกันจนถึงปี 2011 จากนั้นทั้งคู่ได้หย่าขาดกัน ซึ่งหลังจากนั้นมีหนุ่มมาขายขนมจีบเพียบ ก่อนที่เธอจะเลือกดูริแอค ในที่สุด

 ที่มา : สยามดารา

Thursday, July 24, 2014

บรรดา สไมเลอร์ ช็อก ไมลี่ย์ ไซรัส (Miley Cyrus) โดนกุข่าวลาโลก

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานเผยแพร่ออกมาทางสื่อออนไลน์ในว่า ไมลี่ย์ ไซรัส นักร้องสาวเจ้าของเพลง ''Wrecking Ball'' ได้ด่วนจากโลกนี้ไปแล้ว หลังถูกพบร่างไร้วิญญาณนอนอยู่ที่บ้านของเธอในนครลอสแอนเจลีส ทำเอาผู้คนในสังคมออนไลน์โดยเฉพาะแฟนคลับของ ไมลี่ย์ ไซรัส ตื่นตระหนกและวิ่งตามข่าวกันให้วุ่นไปหมด ทั้งที่เจ้าตัวอยู่ปกติสุขดี


เมื่อวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีรายงานน่าตกใจเผยแพร่ในเฟซบุ๊กว่า ป็อปสตาร์สาววัย 21 ปีเสียชีวิตแล้วจากการเล่นยาเกินขนาดที่บ้านของเธอในแอลเอ โดยเว็บไซต์ดิ อีพอช ไทม์ส ได้รายงานข้อความต้นตอกระแสข่าวนี้ ซึ่งระบุไว้ว่า
''(ช็อก) ไมลี่ย์ ไซรัส ถูกพบเสียชีวิตแล้วที่บ้านของเธอในลอสแอนเจลีส! ไมลี่ย์ ไซรัส นักร้องคันทรีถูกพบว่าเสพยาเกินขนาดเมื่อบ่ายวันนี้ที่บ้านในลอสแอนเจลีสของเธอ''

โดยข่าวสุดช็อกนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการกุข่าวลวงครั้งใหม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของไซรัสครั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้อ่านคลิกโพสต์ดังกล่าว และพวกเขาจะได้นำยอดการเข้าชมไปใช้หาเงินได้ อย่างไรก็ตาม แม้นี่จะเป็นแค่ข่าวลวงโลกที่เลวร้าย แต่ก่อนที่ความจริงทั้งหมดจะกระจ่างก็ทำเอาเหล่า ''สไมเลอร์'' กลุ่มแฟนคลับของไซรัสตื่นตระหนกตกใจว่าพวกเขาอาจเสียศิลปินคนโปรดไปแล้วจริงๆ

ผู้ใช้ทวิตเตอร์มากมายเขียนข้อความทำนองว่า ''ไมลี่ย์ ไซรัส ตายแล้วจริงดิ?'', ''ไมลี่ย์ ไซรัส ถูกพบเสียชีวิตแล้วจริงเหรอ?'' หรือ ''ฉันได้ยินว่า ไมลี่ย์ ไซรัส ตายแล้ว'' ขณะที่บางคนก็แสดงความตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เช่น ''ตกลง ไมลี่ย์ ไซรัส ตายหรือเปล่าเนี่ย ฉันกลัวไปหมดแล้ว''

แน่นอนว่าเหล่าสไมเลอร์มีเหตุผลที่พวกเขาจะกังวล เนื่องจากไซรัสมีปัญหาสุขภาพที่น่าตื่นตกใจหลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และนอกจากเรื่องที่ไซรัสมีชื่อเสียงระดับโลกแล้ว เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังข่าวลือการเสียชีวิตครั้งนี้ของเธอคงเป็นเพราะเธอตกเป็นเป้าหมายได้ง่าย เมื่อพิจารณาจากที่เธอเพิ่งเข้าโรงพยาบาลด้วยเหตุผลที่คลุมเครือ

โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ไซรัสเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการแพ้อย่างรุนแรงจนทำให้ต้องยกเลิกทัวร์คอนเสิร์ต หนำซ้ำก่อนหน้านั้นไม่นานเธอก็เพิ่งตกอยู่ในอาการเศร้าเสียใจอย่างมากกับการตายของ ฟลอยด์ สุนัขตัวโปรด โดยตอนนั้นแหล่งข่าวใกล้ชิดเผยกับเว็บไซต์ฮอลลีวู้ดไลฟ์ว่า
''สิ่งที่ไมลี่ย์เป็นทุกข์อยู่นั้นมันมากกว่าแค่อาการภูมิแพ้ เธอยังเจ็บปวดจากการตายของฟลอยด์ เธอรู้สึกว่าส่วนหนึ่งของเธอได้ตายไปแล้ว''
 
ที่มา : สยามดารา

Wednesday, July 23, 2014

ชากีร่า(Shakira) ฮอตทำสถิติร้อยล้านไลค์บนเฟซบุ๊ก เป็นคนแรก

ถึงแม้ใน ทวิตเตอร์ จะมี เลดี้ กาก้า ป็อปสตาร์สาวคนดัง และ จัสติน บีเบอร์ นักร้องหนุ่มขวัญใจสาวๆ อาจจะเป็นราชินีและราชา แต่พอข้ามมาที่ เฟซบุ๊ก แล้วทั้งคู่ยังถือว่าอ่อนหัดเมื่อเทียบกับ ชากีร่า ป็อปสตาร์สะโพกพลิ้วไหว เพราะตอนนี้เธอกลายเป็นคนแรกที่มียอดคนกด ''ไลค์'' บนเฟซบุ๊กทะลุหลัก 100 ล้านไลค์ไปแล้ว


จากที่มีเพียงมากกว่า 300,000 ไลค์ แต่ในช่วงเวลาแค่ 5 ปี หน้าเฟซบุ๊กของ ชากีร่า ก็พัฒนาไปไกลสุดๆ  เพราะตอนนี้ยอดไลค์ตอนนี้ถึงหลัก 100 ล้านเข้าไปแล้ว (ณ เวลาเขียนข่าวอยู่ที่ 100,504,614 likes) ซึ่งถ้าเทียบกับจำนวนผู้ใช้ เฟซบุ๊ก 1.28 พันล้านยูสเซอร์ต่อเดือนแล้วนั้น มันก็เปรียบได้เท่ากับ 8 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

เชื่อได้ว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้มีคนแห่มากดไลค์บนเฟซบุ๊กของนักร้องสาวคนงามมากขึ้น เป็นเพราะเธอเพิ่งไปโชว์การแสดงในพิธีปิดของศึก ฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพ มาหมาดๆ นั่นเอง โดยมีเพียงแอคเคาท์ของ เฟซบุ๊ก กับหน้าสำหรับแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือ ที่มียอดคนกดไลค์มากกว่าของเธอ

ทันทีที่รู้ข่าวนี้ นักร้องวัย 37 ปี ก็ออกอาการดีใจสุดๆ
''ฉันรู้สึกเป็นเกียรติ และดีใจเป็นอย่างมากกับการทำยอดได้ถึงขนาดนี้ โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟซบุ๊ก ได้ช่วยฉัน และศิลปินคนอื่นๆ เป็นอย่างมาก ในการสร้างสะพานถมช่องว่างระหว่างเวทีกับคนดู'' โดยเธอยังโพสต์คลิปวิดีโอเป็นการขอบคุณด้วย

ทั้งนี้ ความนิยมของ ชากีร่า ไม่ได้กระจุกเฉพาะแค่ใน โคลอมเบีย บ้านเกิดของเธอ หรือเฉพาะสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่มันครอบคลุมทั่วโลก โดยหากวัดเฉพาะยอดกดไลค์ในแดนลุงแซมแล้วล่ะก็ มันก็เทียบได้แค่ 11 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนทั้งหมดเท่านั้น

ความสำเร็จครั้งนี้ของเธอไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆ เพราะแม้แต่ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง เฟซบุ๊ก ก็ยังร่วมแสดงความยินดีด้วยตัวของเขาเองเลย โดยเขาเขียนบนหน้า เฟซบุ๊ก ของเธอว่า
''ยินดีด้วย! เป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่มหัศจรรย์''
 
ที่มา : สยามดารา

Tuesday, July 22, 2014

บริตนี่ย์ สเปียร์ส(Britney Spears) เกือบซวยโดนคดีกินแล้วชักดาบ

นักร้องสาวขาลง บริตนี่ย์ สเปียร์ส เกือบต้องตกเป็นข่าวให้ติฉินนินทาว่า กินแล้วชักดาบ กับอาหารมื้อเพียง 30 ดอลลาร์ หรือราวๆ 1 พันบาท ที่ร้านชีสเค้ก แฟคตอรี่ ในแคลิฟอร์เนีย แต่แท้จริงแล้ว เป็นเพียงการสื่อสารที่ผิดพลาด ทำให้ นักร้องสตาร์ดังหุ่นอวบ ที่เพลิดเพลินจำเริญใจกับการหม่ำอาหารกับสุดที่รักของเธอ เดวิด ลูคาโด้ ลุกเดินออกจากร้านแบบลืมจ่ายเงิน 



โดยวันอาทิตย์ที่ผ่านมา บริตนี่ย์ สเปียร์ส กับหวานใจ เดวิด ลูคาโด้ ไปหาอะไรรองท้องที่ร้านชีสเค้ก แฟคตอรี่ ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งหมดเงินไปแค่ 30 ดอลลาร์ เท่านั้น จากนั้นเธอบอกพนักงานเสิร์ฟว่า บอดี้การ์ดส่วนตัวจะเป็นคนจ่ายเงินให้ แล้วเธอก็ลุกออกไป

แต่ทางบอดี้การ์ดก็ไม่ได้จ่ายเงิน ซึ่งบางแหล่งข่าวบอกว่า บอดี้การ์ดก็คงคิดว่า บริตนี่ย์ รับผิดชอบไปแล้ว ด้วยเหตุที่เข้าใจไม่ตรงกันนี้เองทำให้สุดท้ายแล้ว บริตนี่ย์ ไปโดยยังไม่จ่ายเงิน แต่เรื่องนี้จบแบบ แฮปปี้เอนดิ้ง เพราะ บริตนี่ย์ รู้ตัวว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น เธอเลยกลับมาเคลียร์ค่าอาหาร โดยจ่ายเป็นเช็ค แถมให้ ''ทิป'' พนักงานเสิร์ฟถึง 100 ดอลลาร์ เลยทีเดียว

ขณะที่ทางด้าน อเลเธีย โรว์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ ''ชีสเค้ก แฟคตอรี่'' แฟรนไชส์ร้านอาหารยอดนิยม กล่าวกับ พีเพิ่ล ว่า พวกเขาไม่ได้ซีเรียสใดๆ แถมบอกด้วยว่า นักร้องเจ้าของเพลง ''Criminal'' เป็นลูกค้าประจำของพวกเขา
''บริตนี่ย์ มารับประทานอาหารที่ร้านอาหารของเราบ่อยๆ เธอเป็นลูกค้าที่น่ารักมาก เราทราบดีว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความผิดพลาดโดยสุจริตใจ''

ที่มา : สยามดารา

Monday, July 21, 2014

ลือแฟนไม่ปลื้ม ดาเนี่ยล แร็ดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) ไม่จริงจังกับชีวิตรัก

แม้ว่าพระเอกหนุ่มที่โด่งดังจากบทบาทพ่อมดน้อย ''แฮร์รี่ พอตเตอร์'' อย่าง ดาเนี่ยล แร็ดคลิฟฟ์  จะได้รับรางวัลจากบทบาทของเขาใน The Cripple of Inishmaan ละครเวทีแนวตลกของบรอดเวย์ แต่นอกเวทีดูเหมือนเขาจะไม่มีความสุขซักเท่าไหร่ เมื่อมีข่าวว่า เอริน ดาร์ก แฟนสาวนักแสดงคนสวยของเขากำลังไม่ปลื้มเขาเอาสุดๆ



เมื่อปี 2012 แร็ดคลิฟฟ์ กับ ดาร์ก พบรักกันเป็นครั้งแรกตอนเข้าฉากใน ''Kill Your Darlings''  จากนั้นก็ได้เฝ้าปลูกต้นรักมาโดยตลอด และเพิ่งมีการเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง หลังจากเก็บเป็นความลับไม่นาน ทำให้หลายคนคิดไปว่าความรักของพวกเขาคคงกำลังเป็นสีชมพูหวานแหวว แต่มันไม่กลับเป็นอย่างนั้น

เมื่อนักข่าวจอมคุ้ยข่าวแวดวงคนดังอย่าง แรนดี้ เจอร์นิแกน ได้บอกกับ เรดาร์ออนไลน์ดอตคอม เว็บไซต์ข่าวสารวงการบันเทิงชื่อดังว่า ดาร์ก กำลังโมโหสุดๆ ที่แฟนหนุ่มของเธอไม่จริงจังกับชีวิตรักเท่าไหร่ โดยเจอร์นิแกน ระบุว่า
''ตอนนี้เส้นทางอาชีพของ ดาเนี่ยล มาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องความรักหรือการแต่งงาน เอริน ต้องการให้เขาทำอะไรมากกว่านี้ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอไม่ใช่คนสำคัญที่สุดในชีวิตของเขาเลย''

นอกจากนี้ ดาร์ก ยังโมโหสุดๆ ที่พอนักข่าวถามถึงเรื่องที่มีการหมั้นหมายกันแล้วนั้น ดาราหนุ่มวัย 24 ปี กลับตอบไปว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ''พวกเขาไม่ได้หมั้นกันก็จริง แต่ตอนที่เขาหัวเราะเยาะกับความคิดของการแต่งงานตอนพูดกับนักข่าวเนี่ย มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนหยาม มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอไม่สำคัญกับเขาเลย''

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังมีสัญญาณที่ไม่ดีเพิ่มด้วย เมื่อ แร็ดคลิฟฟ์ วางแผยจะไปเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ในลอนดอน หลังจากละครเวทีของเขาจะหมดรอบแสดงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนแฟนสาวน่ะเหรอ ? ก็ต้องอยู่คนเดียวไปน่ะสิ

เจอร์นิแกน ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า
''มันดูเหมือนว่าพอ ดาเนี่ยล สิ้นสุดการแสดง Inishmaan แล้วนั้น เขาก็จะปล่อยให้ เอริน ต้องอยู่คนเดียว ดาเนี่ยล อยากแต่งงาน และมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองในสักวันหนึ่งก็จริง แต่ตอนนี้เขาเพิ่งอายุได้ 24 ปีเท่านั้น เขารักเด็ก แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาของเขา''

ที่มา : สยามดารา

Sunday, July 20, 2014

บียอนเซ่ (Beyoncé) ฉุน เจย์ ซี (Jay-Z) นอกใจถึงขั้นคิดขอหย่า

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าความรักของ เจย์-ซี ศิลปินระดับโลก กับ บียอนเซ่ โนว์ลส์ นักร้องสาวคนดัง เป็นช่วงที่ไม่ราบรื่นเท่าไหร่ แม้ว่าดูจะมีท่าทีว่าทุกอย่างกำลังเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ข่าวที่ฝ่ายชายนอกใจตอนนี้ มันกลับส่งผลงร้ายแรงมากๆ เพราะฝ่ายสาวทนไม่ไหวจนแล้ว


นับตั้งแต่ที่โซแลงจ์น้องสาวของบียอนเซ่เข้าไปทุบตีพี่เขยอย่างไม่ยั้งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ระหว่างทั้ง 3 คน อยู่ในลิฟต์ของโรงแรมสแตนดาร์ด หลังจบงาน ”เม็ต กาลา” ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อวันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีข่าวลือว่าสาเหตุเป็นเพราะโซแลงจ์ไม่พอใจที่ เจย์-ซี นอกใจพี่สาวของเธอด้วยการไปจู๋จี๋กับ ราเชล รอย ดีไซเนอร์ชื่อดัง ความรักของ บียอนเซ่กับเจย์-ซี มีสัญญาณไม่ดี จนมาถึงตอนนี้ บียอนเซ่ ก็ไม่ขอทนอีกต่อไปแล้ว

”เธอได้ยินทุกข่าวลือเกี่ยวกับการที่ เจย์ ไปจีบสาวอื่น และเธอทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ความรักของพวกเขามันถึงตอนอวสาน เขาไปดื่มแชมเปญร่วมกับทีมานและเพื่อนๆ รวมถึงสาวๆ ที่หิ้วมาจากหลังเวที บียอนเซ่เดือดดาลสุดๆ ตอนที่เห็นสาวผมบลอนด์สุดอึ๋มเอาอาวุธเด็ดของเธอไปถูไถเข้ากับหน้าอกของเจย์ แถมเขายังกระซิบกระซาบบางอย่างใส่หูของเธอด้วย” วงในเปิดปากกับ อิน ทัช นิตยสารบันเทิงเล่มดัง


แม้ว่าหลังจากนั้นทั้งคู่จะควงแขนไปดูเกมบาสเกตบอลด้วยกัน เพื่อเป็นการกลบกระแสข่าวฉาว แถมยังออกมายืนยันอย่างดีว่าความรักยังแน่นแฟ้นสุดๆ แต่ความรักของพวกเขามันไม่ได้สวยหนูเหมือนโปรยด้วยกลีบกุหลาบขนาดนั้นเลย

”เธอกับเจย์มีปากเสียงกันอย่างหนักจนเขาถึงขั้นเดินหนีแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยงมาแล้ว พวกเขาทะเลาะกันทุกเรื่อง แต่การนอกใจและความหึงเป็นประเด็นหลักอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ของพวกเขามันระเบิดได้ง่ายมากๆ” วงในระบุ

ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานระบุว่า พวกเขาพยายามขอคำปรึกษากันผ่าน Skype ตอนไปออกทัวร์คอนเสิร์ต On The Run และกำลังพยายามประสานรอยร้าวแล้ว แต่มันกลับสายเกินไป
”ความรักของพวกเขาถูกดูดออกไปจนเกลี้ยง ฉันคิดว่าเธอพร้อมจะยกเลิกชีวิตคู่ของพวกเขาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว แต่เธอยังให้โอกาสเขาอีกครั้ง ตอนนี้มันคงเลี่ยงการหย่าไม่ได้แล้ว และเป็นตัวเลือกเดียวของบียอนเซ่ด้วย”

ที่มา : สยามดารา

Saturday, July 19, 2014

(Gwyneth Paltrow) ออกเดตหนุ่มใหม่หลังเลิก คริส มาร์ติน(Chris Martin)

จากของ Page Six ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่บริเวณ East Village นักแสดงดังวัย 41 ปี กวินเน็ธ พัลโทรว์ ปรากฏตัวพร้อมชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งมีผมหยักศกยาวลงมาถึงคอ และดูเหมือนอยู่ในช่วงวัย 30 ปี โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์ยังกล่าวว่าทั้งคู่น่าจะจับมือกันในตอนนั้นด้วย


การเดินควงกับหนุ่มคนใหม่ของกวินเน็ธครั้งนี้ ทำเอาสื่อหลายสำนักถึงกับงงเลยทีเดียว เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนทาง E!News เพิ่งรายงานไปว่า กวินเน็ธ พัลโทรว์ และ คริส มาร์ติน อดีตสามีวัย 37 ปี ได้พากันไปดินเนอร์ที่แฮมป์ตัน พร้อมกับลูกๆอย่างมีความสุข จนกลายเป็นข่าวลือว่าทั้งคู่จะกลับมาคืนดีกันใหม่


กวินเน็ธและคริสต่างยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและทำหน้าที่พ่อ – แม่ ของ แอปเปิล และ โมเสส ได้อย่างสมบูรณ์ โดยแฟนๆ เองต่างก็ยังคงลุ้นให้ กวินเน็ธ และ คริส มาร์ติน กลับมาคืนดีกันเหมือนเดิม หลังแหล่งข่าววงในยืนยันว่า คริส ยังเจ็บปวดกับการเลิกรากับกวินเน็ธ ถ้ากวินเน็ธขอให้เขากลับไป ก็น่าจะกลับไปคืนดีกันทันที

“คริสเจ็บมากตอนที่ต้องเลิกกับกวินเน็ธรวมถึงข่าวลือต่างๆ มากมาย ซึ่งเขาเองเคยขอร้องกวินเน็ธว่าอย่าเลิก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสุขดีกับอิสระใหม่ๆ ในชีวิต แต่เขา 2 คนก็ยังคงรักกันและก็รักครอบครัวของพวกเขาด้วย คงต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะทำใจได้เพราะต่างคนต่างยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กันอยู่ ฉันเชื่อว่าถ้ากวินเน็ธขอให้คริสกลับไป เขาก็จะกลับแน่นอน”

อเล็กซา ชุง
โดยหลังจากที่ทั้งคู่ประกาศแยกทางก็มีข่าวลือตามมาทันทีว่า คริส มาร์ติน แอบสานสัมพันธ์กับ อเล็กซา ชุง พิธีกร-แฟชันนิสตาชื่อดังของอังกฤษ ขณะที่ทางประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของ คริส มาร์ติน ได้ออกมายืนยันแล้วว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

Friday, July 18, 2014

ปารีส ฮิลตัน(Paris Hilton) ปาร์ตี้ฉาวทุบ เจเรมี่ แจ็กสัน (Jeremy Jackson)

คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่บ้านเช่าของปารีส ที่มาลิบู แจ็กสัน นักแสดงจากซีรีส์ ”Baywatch” กล่าวหาว่าร่วมกันกับ แบรนดอน เดวิส หนุ่มไฮโซพ่อรวย ทำร้ายร่างกายเขาจนเลือดตกยางออก  ขณะที่ข่าวจากฝั่งไฮโสสาวเซ็กซี่ยืนกรานว่า แจ็กสันมางานปาร์ตี้โดยไม่รับเชิญ และระเบิดอารมณ์สร้างความวุ่นวายเมื่อถูกเชิญให้ออกไปจากสถานที่


รายงานข่าวระบุว่า ที่บ้านเช่าริมทะเล ราคาเดือนละ 65,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 2 ล้านบาท) ไฮโซคนดัง ปารีส ได้สังสรรค์กับเพื่อนฝูงเป็นการส่วนตัว แต่จู่ๆ แจ็กสัน วัย 33 ปี ก็โผล่เข้ามาในงานพร้อมกับเพื่อนจำนวนหนึ่ง โดยเขาเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ทำให้เขาถูกเชิญออก แต่จากปากคำของฝั่งปารีสบอกว่า แจ็กสันไม่พอใจ และแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวโอ้อวดว่าตัวเขาเป็นดารา สุดท้ายเกิดการกระทบกระทั่งที่ลงเอยด้วยการที่แจ็กสันถูกมือดีเอา ”ขวดเหล้า” ฟาดกบาลไปหนึ่งดอก

แจ็กสันแจ้งความและบอกว่า ปารีส, แบรนดอน เดวิส และคนอื่นๆ ทำร้ายร่างกายตอนเวลาตีสอง (ตอนดึกวันเสาร์) และมีคนเอาขวดฟาดศีรษะของเขาจนแตก ด้านแหล่งข่าวจากฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยกับเว็บไซต์ ”ทีเอ็มแซด” (TMZ) ว่าได้รับแจ้งความจาก ”คน 2 คน” อ้างว่าต่างฝ่ายต่างโดนทำร้ายร่างกาย และจากการสืบค้นของแหล่งข่าวทำให้เชื่อว่า หนึ่งใน 2 คนนั้นคือ บารอน ฮิลตัน น้องชายของปารีสเอง

”ตอนเวลาประมาณตีสอง เราได้รับแจ้งเหตุความไม่สงบในพื้นที่บริเวณแปซิฟิก โคสต์ ไฮเวย์ และ คาร์บอน แคนย่อน โดยนักเที่ยวและน้องชายของ ปารีส ฮิลตัน ดูเหมือนจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทสถานเบา และต่างฝ่ายต่างไม่ประสงค์จะดำเนินคดีเพิ่มเติม และด้วยเหตุที่ไม่มีฝ่ายใดต้องการดำเนินคดีเพิ่มเติมจึงไม่มีรายงานเหตุอาชญากรรม” แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุ โดยบารอนนั้นถูกพาตัวไปเย็บแผลแตกที่โรงพยาบาล


ทั้งนี้มีการบรรยายเพิ่มเติมว่า ทันทีที่แจ็กสันกับเพื่อนๆ มาที่บ้านของปารีส เขาไม่ได้รับการต้อนรับ และ แบรนดอน เดวิส มาขอให้เขากลับออกไป ทำให้แจ็กสันโมโหและโชว์พาวว่า ”นี่แกไม่รู้จักชั้นเหรอ? จาก Baywatch แล้วก็ Celebrity Rehab ไง!” จากนั้นก็เกิดเหตุตะลุมบอน โดยแจ็กสันอาละวาด และถูกหลายคนรุมจับไว้ก่อนจะถูกคนหนึ่งเอา ”ขวดวอดก้า” ฟาดศีรษะ ซึ่งบางกระแสข่าวอ้างว่า คนลงมือคือ ”จัสมิน วอลท์ซ” ดารา-นางแบบคนสวย

จากนั้นแจ็กสันก็กลับไปพร้อมกับทำลายรถของปารีสคันหนึ่ง และหลังจากนั้นปารีสทวีตเล่าเหตุการณ์ว่า ”มีข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงออนไลน์ออกมา ผู้ชายคนนี้เข้ามาในบ้านของฉันโดยไม่ได้รับเชิญ แล้วทำให้เพื่อนของฉัน 2 คนต้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อเขาถูกขอให้ออกไป น่ากลัวมาก :( ”

ที่มา : สยามดารา

Thursday, July 17, 2014

จอร์จ คลูนี่ย์ (George Clooney) จวกสื่อยับมั่วข่าวแม่ยายกีดกัน

จอร์จ คลูนี่ย์ พระเอกมาดเท่ ฉุนโดนเขียนข่าวมั่วซั่ว ส่งจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ ”เดลี่ เมล” และ นิวยอร์ก เดลี่ นิวส์ สองสื่อดังเมืองผู้ดี และ หนังสือพิมพ์เมืองมะกัน ให้ออกมาขอโทษกรณีที่อ้างว่า ”ว่าที่แม่ยาย” ของเขา ไม่ปลื้มที่จะให้ อามาล อลามุดดิน คู่หมั้นสาวนักกฎหมาย แต่งงานกับเขา โดยเหตุผลเพราะทั้งสองคนมีความเชื่อทางศาสนาที่แตกต่างกัน และจะนำไปสู่หายนะของฝ่ายหญิงในอนาคต 


ขณะที่ คูลี่ย์ กับ อามาล กำลังเตรียมตัวที่จะเข้าสู่ประตูวิวาห์ แต่แล้วก็มีเรื่องอัปมงคลก็เกิดขึ้นในช่วงเวลาดีๆ เมื่อ เดลี่ เมล ตีข่าวว่า บาเรีย อลามุดดิน แม่ของอามาล ไม่อยากให้ทั้งสองคนแต่งงานกัน เพราะเธออยากให้ลูกสาวนักกฎหมายแต่งงานกับคนที่มีความเชื่อแบบนิกายดรูซ (Druze) ที่สำคัญรายงานข่าวดังกล่าว ยังกล่าวในเชิงเย้ยหยันความเชื่อนี้ด้วยการอ้างอิงประเพณีที่จะทำให้เจ้าสาวต้องเสียชีวิต และอามาลจะโดนขับไล่ออกจากสังคม ถ้าเธอแต่งงานกับสตาร์ดังในภาพยนตร์ ”Ocean”s Eleven”

แน่นอนว่าเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับคลูนี่ย์อย่างมาก โดยยืนยันว่า นี่เป็นการรายงานข้อมูลที่เป็นเท็จ ทั้งยังเป็นการพยายามนำความเชื่อทางศาสนามากระตุ้นให้เกิดความวุ่นวาย
”มันไม่ใช่เรื่องราวที่เป็นความจริงเลย เพราะแม่ของอามาลไม่ได้นับถือนิกายดรูซ และท่านก็ไม่มีทางที่จะต่อต้านการแต่งงาน เดลี่ เมล มักสร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเป็นประจำ เป็นการสร้างข่าวที่ไร้ความรับผิดชอบ ตอนนี้เป็นการกระทำที่แสวงหาประโยชน์จากความแตกต่างในเรื่องความเชื่อ และนี่เป็นเรื่องที่เป็นการละเลย รวมทั้งมีความอันตรายมากๆ”

”เรามีคนในครอบครัวอยู่ทั่วทุกมุมโลก และแนวคิดของคนที่สร้างความโกรธเคืองให้กับคนบางส่วนของโลกเพียงเพื่อเหตุผลในการขายหนังสือพิมพ์ ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกอาชญากร ผมเป็นลูกชายของนักข่าว ผมยอมรับแนวคิดในเรื่องเสรีภาพในการพูดที่ไม่สร้างความวุ่นวายให้กับชีวิตส่วนตัวของผม แต่เรื่องนี้มันก็เหมือนกับเรื่องอื่นๆ มากมายที่สื่อหลายๆ เจ้าไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ Boston.com, นิวยอร์ก เดลี่ นิวส์, กัลฟ์ นิวส์ และเอมิเรตส์ 24/7 อ้างว่า เดลี่ เมล เป็นแหล่งข่าวของพวกเขา” คลูนี่ย์ ร่ายยาว

จากการแสดงความไม่พอใจในเรื่องนี้ทาง เดลี่ เมล ได้ยอมรับผิด และออกแถลงการณ์เพื่อกล่าวขอโทษสำหรับสิ่งที่ได้ทำลงไป
”เรายอมรับการรับรองขอมร.คลูนี่ย์ เกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และเราอยากขอโทษต่อเขา, มิสอามาล อลามุดดิน และ บาเรีย แม่ของเธอ สำหรับสาเหตุที่ทำให้ต้องเจ็บปวดในเรื่องนี้ เราได้ติดต่อไปยังตัวแทนของมร.คลูนี่ย์ เพื่อที่จะมีโอกาสได้พูดคุยกับเขาในการแก้ไขข้อผิดพลาดสำหรับเรื่องนี้”

ด้วยการที่คลูนี่ย์โมโหสุดๆ จนออกมาแถลงอย่างเป็นเรื่องเป็นราวนั้น แสดงให้เห็นว่า เขากับอามาลจริงจังกันมาก ส่วนเรื่องการแต่งงาน แหล่งข่าวเปิดปากกับ ”เพจ ซิกซ์” สื่อบันเทิงชื่อดังว่า คลูนี่ย์ต้องการจัดงานแบบเงียบและเป็นส่วนตัวที่สุด ฉะนั้นหากไม่ใช่ญาติหรือเพื่อนสนิทอย่าหวังว่าจะได้เห็นพิธีสำคัญครั้งนี้แน่นอน
”จอร์จกับอามาลอยากแต่งงานกันในอิตาลี แต่พวกเขาต้องการสถานที่ที่จะทำให้พวกเขาและแขกมีความเป็นส่วนตัวกันสุดๆ”

Wednesday, July 16, 2014

อดีตพ่อค้ายา แฉคลิปข่าวฉาว โจลี่ (Angelina Jolie) เล่นยา

แฟรงคลิน เมเยอร์ อดีตพ่อค้ายาที่เคยโดนโทษจำคุก 8 ปี อ้างว่าเคยจัดยาให้โจลี่ ทั้งเฮโรอีน และโคเคน ตลอดจนการเม้าท์เรื่องชีวิตบนเตียง ซึ่งมีคลิปอัดไว้ ความยาว 16 นาที พร้อมแฉอดีตเหลวแหลกของ แองเจลิน่า โจลี่ สมัยยุคปลายทศวรษ 90 เมื่อ  ล่าสุดมีการเปิดเผยคลิปดังกล่าวแล้ว ตลอดจนแฉเรื่องราวเหม็นคาวของโจลี่ที่ แบรด พิตต์ ทราบแล้วคงอึ้ง


ก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่วันก่อน แฟรงคลิน เมเยอร์ อดีตพ่อค้ายาที่โดนโทษจำคุก 8 ปี ปี 2002 โทษฐานมีโคเคนไว้ในครอบครอง อ้างว่าเขาเคยจัดหายาให้โจลี่ ซึ่งมีทั้งแบบโจลี่มาซื้อที่ห้องพักของเขา หรือโทร.มาบอกให้เขาเอาไปให้เธอที่ห้องพักในโรงแรมแอนโซเนีย ย่านอัปเปอร์ เวสต์ ไซด์ ในนิวยอร์ก และหนึ่งในเหตุการณ์ที่เขาเอายาไปส่งให้โจลี่ที่ห้อง เขาได้อัดคลิปวิดีโอเอาไว้ด้วย

”แองจี้เป็นลูกค้าของผมนานหลายปี ผมขายยาให้เธอทั้งโคเคน และเฮโรอีน มีวันนึงเธอโทร.มาหาผม บอกว่าอยากให้ผมแวะมาเธอที่ห้อง นี่เป็นวิธีการของเธอ เวลาอยากให้ผมมาส่งของ ตอนนั้นผมเพิ่งซื้อกล้องวิดีโอมาพอดี เลยตัดสินใจเอาไปด้วย พอผมไปถึง ผมก็ส่งยาให้เธอ แล้วเธอก็ยื่นเงินให้ผม หน้าตาเธออิดโรย ซูบเซียว และที่แขนมีแต่รอยเข็มทั้งนั้น!”’ เมเยอร์ วัย 68 ปี กล่าว

ตอนนั้นเมเยอร์บอกว่า เขาขออนุญาตโจลี่ว่าอยากจะขอบันทึกภาพเอาไว้ ซึ่งโจลี่ที่เพิ่งหัดเดตกับ บิลลี่ บ๊อบ ธอร์นตัน ก่อนจะแต่งงานกันในเวลาต่อมา ไม่ได้แสดงทีท่าสนใจสักนิด โดยอดีตพ่อค้ายากล่าววว่า ”หลังจากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา พ่อของเธอ (จอน วอย) โทร.มาหาเธอ พวกเขาคุยกันเรื่องแม่ของเธอ (มาร์เชลีน แบร์กทร็องด์ ที่เสียชีวิตในวัย 56 ปี เพราะมะเร็งรังไข่ ปี 2007)”

คลิปวิดีโอเป็นปี 1998 หลังจากที่เธอได้รางวัลลูกโลกทองคำจาก ”Gia” พูดง่ายๆ ว่าเป็นดาวจรัสแสงของวงการแล้ว แต่หารู้ไม่ว่า ภายนอกที่สวยงาม พอเปิดประตูห้องพักเข้าไป มันคือห้องของขี้ยา และคนโรคจิต โดยมีการจับใจความที่โจลี่พูดกับพ่อ แม้ฟังไม่รู้เรื่อง หรือรู้เจตนาของเธอ ช่วงหนึ่งว่า ”เรื่องก็คือ ความคิดที่จะพยายามหาห้องหรือบ้านสำหรับทุกคน มันไม่จำเป็น รู้มั้ย ไม่ว่าจะบ้านหรืออะไร หนูบอกไปแล้ว แล้วถ้าหนูไม่ทำงานล่ะ? แม่บอกว่าให้หนูสบายๆ แต่ฉันบอกว่า ถ้าหนูไม่ทำงานให้ ถ้าไม่หาเงินเยอะๆ? แล้วแม่อยู่ที่อะพาร์ตเมนต์จนกว่าหนูจะหาเงินได้มากกว่านี้ แล้วหนูจะหาบ้านหลังใหญ่ๆ ให้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นล่ะ”

ส่วนเรื่องเซ็กซ์นั้น เมเยอร์เล่าว่า ”จู่ๆ เธอก็เริ่มต้นเล่าเรื่องชีวิตเซ็กซ์ของเธอให้ผมฟัง เธอบอกว่า บิลลี่ บ๊อบ เล่นมุกกับเธอว่า กระปู๋ของเขาเล็กนิดเดียว แต่จริงๆ แล้วมันเล็กยิ่งกว่ากระปู๋ยุงซะอีก แต่ แองจี้บอกผมอย่างกระตือรือร้นว่า แต่พอพวกเขาได้เสียกัน ปรากฏว่าของเขามันใหญ่ยังกับม้า! ผมคิดว่าทุกวันนี้เธอก็คงมีแอบคิดถึงไอ้นั่นของ บิลลี่ บ๊อบ บ้างแหละ ซึ่งถ้าผมเป็นแบรด ผมคงไม่ปลื้มแน่นอน!”

นอกจากนี้ เมเยอร์บอกว่า โจลี่บอกเขาด้วยว่าเธอมีความสุขกับประสบกามเพศเดียวกัน โดยเฉพาะกับ เจนนี่ ชิมิซึ ที่แสดงหนัง ”Foxfire” ด้วยกัน แต่ชิมิซึเป็นคนเดียวจากสาวๆ หลายคน รวมถึงหนุ่มๆ ด้วย ที่เธอเคยเล่นจ้ำจี้มะเขือเปราะ และในส่วนของผู้ชาย โจลี่เอ่ยถึง ทิโมธี ดัลตัน ที่ถึงขั้นอยากแต่งงานกับเธอ โดยแหล่งข่าวบอกว่า ”การสารภาพเรื่องทางเพศเช่นนี้คงทำให้แบรดแทบบ้า”

ความโรคจิตของโจลี่ยังมีเรื่องการยอมรับว่า เธอคลั่งเซ็กส์แบบซาดิสต์-มาโซคิสต์, การร่วมรักแบบพันธนาการ เล่นแรงๆ ไปจนถึงการฆ่าสัตว์เลี้ยง ตลอดจนการที่เธอตกแต่งห้อง ที่แฟรงคลินบอกว่าเต็มไปด้วยภาพศพอุจาดตา
”อย่างหนึ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจก็คือผนังห้องพักของโจลี่ เต็มไปด้วยภาพถ่ายคนตายของจริงด้วย มันคล้ายกับภาพฉากการฆาตกรรม ผมว่าเธอต้องไปได้มาจากสำนักงานชันสูตรศพแน่”

เมเยอร์อ้างอีกว่า เขาจะเจอกับโจลี่สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เมื่อเธออยู่ในเมือง ซึ่งสถานที่ก็คือห้องพักของเธอ หรือตามโรงแรม ซึ่งเธอจะเสียเงินซื้อยาครั้งละ 100 ดอลลาร์ โดยประมาณ แถมโจลี่ยังพร้อมเล่นยาต่อหน้าเขาแบบไม่อายด้วย
”คือมันไม่สำคัญเลยว่าเธอจะอยู่ที่ไหน” เมเยอร์ กล่าว พร้อมอ้างว่ามีครั้งหนึ่งที่โจลี่เมายาไปออกทีวี และให้สัมภาษณ์โปรโมตหนัง ”Girl, Interrupted” ที่เธอได้ออสการ์ ปี 1999

ทั้งนี้ ย้อนไปปี 2011 โจลี่เคยไปออกรายการ ”60 Minutes” และยอมรับชีวิตเลวร้ายทุกอย่างในอดีต และเชื่อว่าเธอโชคดีมากๆ ที่ผ่านช่วงเวลาบ้าบอคอแตกดังกล่าวมาได้โดยไม่ตายซะก่อน
”ฉันเคยมีช่วงเวลาที่ดำมืด เรียกว่าดำสุดๆ ไปเลย แต่ฉันรอดมาได้ ฉันไม่ได้ตายตั้งแต่สาวๆ ซึ่งถือว่าฉันน่ะโชคดีมากแล้ว”


ที่มา   สยามดารา, HollyWoodBuzz

Tuesday, July 15, 2014

ลินด์ซีย์ โลแฮน (Lindsay Lohan) ออกลาย ขาดซ้อม-ไม่เตรียมตัว ทำกองละครเวทีผู้ดีป่วน

อดีตนักแสดงวัยรุ่นคนดัง ลินด์ซีย์ โลแฮน แสดงออกให้เห็นถึงความเป็นคนที่ ”สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก” ของจริง หลังมีข่าวว่าออกลายให้ทีมงานละครเวทีที่อังกฤษ ที่เสนองานให้เธอทำต้องปวดหัวแล้ว ทั้งการมาซ้อมสายและไม่มีการเตรียมตัวที่ดี จนโดนผู้กำกับฯ เฉ่งหนักไปแล้วว่า โอกาสนี้มีครั้งเดียว หากยังโง่ไม่รับเอาไว้อีก ก็ตัวใครตัวมัน


กลายเป็นตัวหายนะของผู้ว่าจ้างไปซะแล้วสำหรับ ลินด์ซีย์ โลแฮน วัย 28 ปี  เพราะชีวิตไม่เหลืออะไรอีกแล้วเล่นหนังกี่เรื่องต่อกี่เรื่องก็เจ๊งหมด แถมบางเรื่องยังมีปัญหากับทีมงาน และเหล่าโปรดิวเซอร์ด้วย อย่างเช่น ”Georgia Rule” ปี 2006 ที่โดนผู้อำนวยการสร้างเฉ่งยับเรื่องไร้วินัย ไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไปจนถึง ”The Canyons” หนังอินดี้ปี 2013 ที่เธอลงทุนแก้ผ้าแก้ผ่อน แต่ไม่มีแม้แต่คำชม นอกจากเสียงด่าจากนักเขียนบท


ความฉาวโฉ่พวกนี้เองทำให้ โลแฮน ต้องกลับมาเหลวแหลกอีกครั้งทั้งที่ไปบำบัดมาแล้วก็ตาม ทำให้ต้องย้ายไปทำมาหากินที่อังกฤษเพราะคนที่นั่นยังไม่รู้วีรกรรมของเธอ ทำให้เธอมีงานไปโชว์ตัวตลอดจนลือให้แซดว่ามีการแอบซุ่มทำงานเพลง และเล่นละครเวที ซึ่งประเด็นหลังมีการยืนยันในเวลาต่อมาว่า เธอได้รับเลือกให้มาร่วมแสดงละครเวทีเวสต์เอนด์เรื่อง ”Speed-the-Plow” ของผู้กำกับฯ เดวิด มาเม็ต


โดยมีแหล่งข่าวเมืองผู้ดีได้แฉว่า โลแฮน ใช้เวลาหมดไปกับการเที่ยวกลางคืนแล้วก็มาซ้อมสาย ไม่มีการเตรียมพร้อมตัวเอง แต่ที่สุดยอดที่สุดคือ วันดีคืนดีหายหัวไปเลย! วงในบอกว่า
”ตอนนี้ทุกคนเซ็งกันหมด พวกทีมนักแสดงก็รำคาญเธอมาก ผู้กำกับฯ บอกเธอว่า นี่คือโอกาสเพียงครั้งเดียว ถ้าหากเธอขาดซ้อมอีกครั้งเดียว หรือมาซ้อมสายอีกครั้งเดียว เธอเก็บข้าวของไปทำมาหากินที่อื่นเลย”

ที่มา  รักดารา

Monday, July 14, 2014

ลือหึ่ง คริสเท่น สจ๊วร์ต (Kristen Stewart) จีบแฟนหนุ่ม เดมี่ มัวร์ (Demi Moore)

นางเอกคนสวย คริสเท่น สจ๊วร์ต งานเข้าอีกรอบในข้อหาเดิมๆ โดยถูกเล่นข่าวว่าเป็นตัวการทำให้ชีวิตรักที่กำลังไปได้สวยของนางเอกรุ่นป้า เดมี่ มัวร์  กับ ฌอน ฟรายเดย์ ไอ้หนุ่มร็อกเกอร์รุ่นน้อง ต้องมีอันสั่นคลอน เพราะดันไปสนิทกับฝ่ายชายถึงขั้นแลกเบอร์ แต่ปรบมือข้างเดียวไม้ดัง งานนี้ฝ่ายชายก็เลยโดนพ่วงหางเลขไปด้วยว่าไปเล่นหูเล่นตากับนางเอกข่าวฉาว ไม่เกรงใจแฟนรุ่นพี่



หลังจากที่นางเอกสาว สจ๊วร์ตทำลายครอบครัวของ รูเพิร์ต แซนเดอร์ส ผู้กำกับหนัง ''Snow White and the Huntsman'' ด้วยการเป็นชู้กับแซนเดอร์ส ทั้งที่รู้ดีว่ามีลูกมีเมียแล้ว ทั้งที่ตัวเองก็คบอยู่กับ โรเบิร์ต แพททินสัน อยู่ กลายเป็นตราบาปที่ลบยังไงก็ไม่หายไปตลอดชีวิต เพราะพิมพ์ชื่อของทั้งคู่ในเว็บกูเกิล ภาพก็โชว์หรามาให้เห็นแล้ว ตอนนี้ชายเลวหญิงชั่ว เลยอยู่เป็นโสดไปพลางๆ

อย่างไรก็ดี สจ๊วร์ตก่อเรื่องให้โดนด่าอีกแล้ว เมื่อทำเล่นหูเล่นตากับ ฌอน ฟรายเดย์ แฟนของ เดมี่ มัวร์ ที่ควงกันมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน ระหว่างที่สองสาวนัดเจอกันเพื่อพูดคุยเรื่องโปรเจกต์งาน โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า
''เดมี่เชิญคริสเท่นให้มาคุยเรื่องโปรเจกต์ภาพยนตร์ แต่เธอกับ ฌอน ดันถูกใจกันซะเอง ตอนนี้คริสเท่นเริ่มหลงเขาบ้างแล้ว พวกเขาแลกเบอร์กันแล้ว และแอบคุยกันใต้จมูกเดมี่''

''บรรดาเพื่อนๆ ของคริสเท่น พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนของตัวเองให้เอาตัวออกห่างจากสถานการณ์นี้ เพราะเธอคงบ้าไปแล้วถ้าหากทำลายสะพานเชื่อมสัมพันธไมตรีของตัวเองกับเดมี่ เพราะลำพังทุกวันนี้เธอยังฟื้นตัวจากการแอบไปมีความสัมพันธ์กับรูเพิร์ตไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น การทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำสอง คงไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายในวงการของเธอ'' แหล่งข่าวกล่าว

ความฉาวโฉ่ของสจ๊วร์ตคงติดตัวไปจนตายในฐานะคนที่ทำลายครอบครัวที่อบอุ่นของชาวบ้าน พรากลูกพรากเมียเขา และเมื่อไม่นานมานี้ โจน ริเวอร์ส นักแสดงรุ่นยาย เพิ่งช่วยบันทึกเรื่องของสจ๊วร์ตลงหนังสือตัวเอง ''Diary of a Mad Diva'' ว่า ''มีดาราหลายคนที่เก่งเรื่องเดียว หนึ่งในสุดยอดที่สุดก็คือ คริสเท่น สจ๊วร์ต ที่สร้างอาชีพตัวเองขึ้นมาจากการเล่นจึ๊กกะดึ๋ยกับผู้กำกับฯ''

ขณะที่ข่าวต่อเนื่องของสจ๊วร์ตที่เล่นชู้กับผู้กำกับ ทำให้ทาง ''ยูนิเวอร์แซล'' ยืนยันว่าภาคต่อของ ''Snow White and the Huntsman'' จะไม่มีเธอเป็นนางเอก เช่นเดียวกับผู้กำกับฯ ที่ รูเพิร์ต แซนเดอร์ส จะไม่ได้กลับมาบ้ากาม ทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัดในกองถ่าย โดยลือให้แซดว่าตัวเต็งที่จะมากำกับฯ คือมือเก๋าอย่าง แฟร้งค์ ดาราบองต์ ผู้สร้าง ''The Walking Dead'' ซีรีส์ซอมบี้ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง ส่วนนางเอกยังไม่มีการระบุ

ที่มา   สยามดารา

Sunday, July 13, 2014

หนังทรานฟอร์เมอร์ (Transformers) ภาค 4ทุบสถิติ Avatar อย่างง่ายดาย

Transformers: Age of Extinction ของ ไมเคิล เบย์ สามารถสร้างสถิติหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลในจีนแผ่นดินใหญ่ได้เรียบร้อย ด้วยการกวาดรายได้ในประเทศจีนไปแล้วทั้งสิ้น 219 ล้านเหรียญฯ ไม่เสียแรงเอาใจจีน Transformers 4 ใช้ 11 วันทุบสถิติ Avatar ง่ายดาย


จากการที่ ทรานฟอร์เมอร์ 4 ได้เลือกนักแสดงชาวจีนให้มีบทบาทในเรื่อง และถ่ายทำบางส่วนของหนังในจีนกับฮ่องกงดูจะกลายเป็นกลยุทธที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงไปแล้วเพราะล่าสุด Transformers: Age of Extinction สามารถกวาดเงินจากนักดูหนังชาวจีนไปได้ถึง 219.2 ล้านเหรียญฯ หรือ 1,476 ล้านหยวน โค่นสถิติเดิมของ Avatar ที่สร้างเอาไว้เมื่อปี 2009 ด้วยตัวเลข 1,391 ล้านหยวนอย่างง่ายดายด้วยการฉายเพียงแค่ 11 วันเท่านั้น
     
นับว่ารายได้ของ Transformers ภาค 4 ในจีนแผ่นดินใหญ่ยังสูงกว่ารายได้ในสหรัฐฯ ที่หนังทำไปแล้วทั้งสิ้น 180 ล้านเหรียญฯ เสียอีก โดยตอนนี้หนังกวาดเงินทั่วโลกไปแล้วทั้งสิ้น 592 ล้านเหรียญฯ
     
นักวิเคราะห์จาก Box Office Mojo ตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุหลัก 3 ประการที่ทำให้ Transformers ทำเงินอย่างถล่มทลายในแดนมังกรก็คือ
(1) หนังชุดนี้ครองใจผู้ชมชาวจีนอยู่แล้ว เพราะภาคก่อนก็ทำเงินไปสูงถึง 1,112 ล้านหยวน
(2) ตลาดธุรกิจภาพยนตร์ในจีนกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นที่อัตรายอดขายตั๋วแทบจะสูงขึ้นในทุกวัน โดยในปี 2014 มีหนัง 5 เรื่องที่ทำเงินเกิน 100 ล้านเหรียญฯ ไปแล้ว แล้วขณะที่ตลอดทั้งปี 2013 มีหนังทำเงินเกิน 100 ล้านอยู่แค่ 5 เท่านั้น
(3) ประการสำคัญที่สุดก็คือที่นักวิเคราะห์ก็มองว่าการใส่องค์ประกอบความเป็น “จีน” ทั้งนักแสดง และฉากหลังของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจีนกับฮ่องกง รวมถึงสินค้าโฆษณาแฝงต่างๆ คือส่วนสำคัญที่ทำให้หนังดึงดูดผู้ชมกลุ่มต่างๆ ให้มาชมกันอย่างคับคั่งนั่นเอง
     
โดยนอกจาก หลีปิงปิง ที่รับเด่นในหนังเรื่องนี้แล้ว Transformers: Age of Extinction ยังมีดาราจีนอีกหลายคนที่มาปรากฏตัวในหนังทั้ง 2 รุ่นใหญ่อย่าง หลีเหลียงเหว่ย และ ไมเคิล หว่อง, ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง ฮันเกิง และดาราหน้าใหม่อีกหลายคนที่ผู้สร้างคัดเลือกมาจากรายการเรียลิตีโชว์ค้นหานักแสดงสำหรับหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วแต่ละคนจะได้โผล่มาในหนังกันคนละเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น นอกจากนั้นหนังก็ยังมีนักมวยคนดัง โจวซื่อหมิง เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกคู่ปรับของ แก้ว พงษ์ประยูร มาปรากฏตัวในฉากหนึ่งของเรื่องด้วย
     
เจิ้งคุนเจี๋ย นักวิจารณ์ภาพยนตร์ทางออนไลน์ได้ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่าทั้งฉากหลัง, นักแสดงเชื้อสายจีน และโฆษณาแฝง ได้ทำให้ผู้ชมรู้สึกใกล้ชิดกับ Transformers มากกว่าหนังฮอลลีวูดโดยทั่วไป จนรู้สึกสัมผัสกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เป็นพิเศษ
     
นอกจากนั้น นักวิจารณ์ชาวจีนยังมองว่าผู้สร้างยังนำเสนอภาพของชาวจีนใน Transformers ออกมาโดยไม่ทำให้ผู้ชมชาวจีนรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ อย่างที่เคยปรากฏมาในหนังฮอลลีวูดที่มักจะเสนอภาพชาวจีน และวัฒนธรรมจีนออกมาอย่างซ้ำซากจำเจ เป็นการถ่ายทอดมาแบบสายตาของชาวตะวันตก ที่มักจะมีอคติกับชาวจีนในบางด้าน เช่น Skyfall ที่เพิ่งฉายไปเมื่อเร็วๆ นี้ ก็เคยสร้างปัญหาเพราะการนำเสนอภาพของชาวจีนในแง่ลบมาแล้ว

ที่มา  ผู้จัดการออนไลน์

Saturday, July 12, 2014

เซเลน่า โกเมซ (Selena Gomez) โดนเพื่อนครอบครัวผลักดันเข้าสถานบำบัด

นับตั้งแต่นักร้องสาวแก้มป่อง เซเลน่า โกเมซ หวนกลับมาคบกับ จัสติน บีเบอร์ ป็อปสตาร์เกรียนตัวพ่อ ชีวิตของเธอนับวันก็มีแต่สาละวันเตี้ยลง  จนทำให้บรรดาเพื่อนฝูงและคนในครอบครัวรู้สึกกังวลใจจนต้องพยายามหาทางโกเมซเข้ารับการบำบัดเป็นการด่วน


หลังจากที่นักร้องสาววัย 21 ปีลมพัดหวนกับบีเบอร์  เธอก็ต้องพบกับช่วงเวลาที่แสนยากลำบากในช่วงที่ผ่านมา  เมื่อทั้งเพื่อนฝูง และครอบครัว ต่างกังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับอนาคตของเธอ และส่งผลให้พวกเขาพยายามที่จะกดดันให้โกเมซเข้ารับการบำบัดทันทีไม่งั้นทุกอย่างอาจจะสายเกินที่จะแก้ไข

แหล่งข่าวเผยกับ ''ฮอลลีวู้ด ไลฟ์'' นิตยสารดังเมืองมะกันเผยว่า
''ครอบครัว และเพื่อนๆ พยายามที่จะกดดันเซเลน่าว่าเธอควรจะเข้ารับการบำบัดในสุดสัปดาห์นี้''
แหล่งข่าวยังเผยต่อว่า
''เธอต้องเจอกับเรื่องวุ่นวายมาตลอดกับสิ่งที่จัสตินได้ทำเอาไว้กับเธอ และเขาก็รู้ว่าจะเล่นกับความรู้สึกของเธอยังไง เธอต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากหลายๆ สิ่งกับจัสติน''

โดยเมื่อวันชาติของสหรัฐฯ วันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้คนออกมาจัดงานปาร์ตี้ และเฉลิมฉลองกันยกใหญ่ โดยครอบครัวของโกเมซ กังวลว่าช่วงสุดสัปดาห์จะมีผลกระทบในด้านลบสำหรับเธอ และมีความเป็นไปได้ที่เธอจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้าย
แหล่งข่าว กล่าวเสริมต่อว่า
''ในช่วงสุดสัปดาห์ทุกๆ คนอยู่กับงานปาร์ตี้ ผู้คนที่มาอยู่ในแคมป์ของเธอเชื่อว่าเธอเอาแต่กินและดื่ม และมันสร้างปัญหาพอสมควร ดังนั้นพวกเขาอยากที่จะให้เธอได้รับการช่วยเหลือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้''

โกเมซเคยตกเป็นข่าวว่าเข้ารับการบำบัดมาแล้วเมื่อเดือนมกราคม 2014 จากปัญหามากมายร้อยแปดพันเก้า แต่มีรายงานจากทีมงานของเธออาจจะยอมเข้ารับการบำบัดอีกครั้งก็ได้ แต่งานนี้เธอไม่คิดที่จะอยู่รักษานานแน่นอน ''(เธอเคยเข้ารับการบำบัด) ด้วยเหตุผลมากมาย มันเป็นปัญหาเกี่ยวกับวัยหนุ่มสาว การทำงานหนัก รวมทั้งปัญหาความสัมพันธ์''


แหล่งข่าวอีกราย ระบุว่า
''มันมีความกดดันจากการอยู่กับจัสติน และคนที่อยู่รายล้อมตัวเขา สิ่งเหล่านี้เห็นได้อย่างชัดเจน ก็ลองดูสิ่งที่พวกเขาทำซิ !''

ขณะที่ทางด้านโฆษกส่วนตัวของโกเมซ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด

ที่มา   สยามดารา