Wednesday, September 16, 2015

จอห์นนี่ เดปป์(Johnny Depp) ลั่นถ้า แอมเบอร์ เฮิร์ด(Amber Heard) ติดคุกจะบุกชก รมต.ออสซี่

พระเอกมาดติสต์ จอห์นนี่ เดปป์ ออกอาการปากอยู่ไม่สุขโดยได้พูดในเชิงติดตลกว่าพร้อมที่จะบุกไปอัดนักการเมืองในประเทศออสเตรเลีย หากบังอาจตัดสินให้ แอมเบอร์ เฮิร์ด ภรรยาสุดเซ็กซี่ของตนต้องติดคุกจากคดีลักลอบนำน้องหมาเข้าดินแดนออสซี่อย่างผิดกฎหมาย



หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ศรีภรรยาคนงามของเดปป์เพิ่งจะมีข่าวเบี้ยวขึ้นศาลเซาธ์พอร์ท มาจิสเตรท คอร์ต ในรัฐควีนส์แลนด์ ดินแดนจิงโจ้ จากกรณีที่โดนตั้งข้อหา 2 กระทง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยกระทงแรกคือการทำผิดกฎหมายในการแอบนำเจ้าพิสตอล กับ บู ซึ่งเป็นพันธุ์ยอร์กเชียร์เทอร์เรียร์เข้ามาในรัฐควีนส์แลนด์อย่างผิดกฎหมาย ส่วนอีกกระทงคือการปลอมแปลงเอกสาร ส่งผลให้ต้องเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปจนถึงวันที่ 2 พ.ย.นี้

โดยในเรื่องนี้ดูเหมือนทำให้ดาราหนุ่มใหญ่วัย 52 ปีเคืองขุ่นใจไม่ใช่น้อย จากการให้สัมภาษณ์กับรายการ ''Jimmy Kimmel Live'' เกี่ยวกับเรื่องที่เฮิร์ดโดน บาร์นาบี้ จอยซ์ รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรแดนจิงโจ้จ้องจะเอาผิด ทำให้เขาพร้อมที่จะเดินทางไปทำร้ายร่างกายจอยซ์ถึงออสเตรเลีย เพื่อจะได้ติดคุกพร้อมกับเมียรัก

นักแสดงชื่อก้องโลกจากภาพยนตร์มหากาพย์โจรสลัดสุดมัน ''Pirates of the Caribbean'' กล่าวว่า ''ผมพร้อมที่จะเดินทางไปประเทศออสเตรเลีย และก็จัดการชกชายคนนั้น (บาร์นาบี้ จอยซ์) ซึ่งหากทำแบบนั้นผมจะได้เข้าคุกด้วย''

นอกจากนี้เดปป์ยอมรับว่าตอนแรกคิดว่าได้ทำเอกสารของน้องหมาสองตัวครบแล้วจึงได้นำพวกมันเข้าไปในประเทศออสเตรเลีย แต่สุดท้ายเรื่องกลับตาลปัตร
''เราได้ทำเอกสารทุกอย่างให้กับสุนัขของเราครบแล้ว เราก็เลยพามันออกไปให้ทุกๆ คนได้เห็น''

อย่างไรก็ตาม จากข้อหาดังกล่าวทำให้นักแสดงสาวจากภาพยนตร์ดังเรื่อง ''The Rum Diary'' มีโอกาสที่จะโดนบทลงโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี และปรับเงินจำนวน 102,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 2.4 ล้านบาท) ส่วนกรณีที่ปลอมแปลงเอกสารซึ่งเกี่ยวพันกับการแจ้งข้อมูลในบัตรสำหรับผู้โดยสารขาเข้า มีบทลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 10,200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 255,000 บาท) เลยทีเดียว

ที่มา   สยามดารา
เครดิตภาพ WireImage, LA Times, RAY STRANGE

Friday, September 11, 2015

ไมลี่ย์ ไซรัส(Miley Cyrus) ชักไปกันใหญ่ เล็งฝังซิลิโคนทำ"เดวิล ฮอร์น"(Devil Horns)

ลือให้สนั่นว่า ไมลี่ย์ ไซรัส ป็อบสตาร์-นางเอกดัง มีแผนที่จะสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนทั่วโลกโดยผ่าตัดใส่ซิลิโคนเอาไว้ในศีรษะให้มีเขาเหมือนกับ "ซาตาน" งานนี้อย่าเรียกเธอว่าบ้าให้บอกว่าเธอกำลังจะหลุดโลก



หลายๆคนที่ได้ติดตามข่าวสารวงการบันเทิงเมืองมะกัน จะรู้ว่า ไมลี่ย์ เปลี่ยนแปลงจากเด็กสาวใสๆ ที่เห็นในซีรี่ส์ฮิต "Hannah Montana" กลายมาเป็นสาวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด แต่ตอนนี้เธออาการหนักยิ่งกว่าเพราะไม่ใช่แค่เปรี๊ยวอย่างเดียว แต่กลายเป็นทำอะไรบ้าบอระห่ำเดือดต่อหน้าสาธารณชนตลอด
Hannah Montana

นอกจากนี้ยังมีการแต่งตัวที่ออกแนวเอ็กซ์ เซ็กซ์ เสียว ชนิดที่พ่อแม่ผู้ปกครองคนไหนที่มีลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่น ต่างก็ต้องแบนลูกๆ ห้ามดู ป็อบสตาร์สาวเจ้าของเพลงฮิต "We Can't Stop" และ "Wrecking Ball" เด็ดขาด เนื่องจากหวั่นใจว่าจะติดอิทธิพลในด้านลบมาด้วย

ล่าสุดเพื่อนสนิทของ ไมลี่ย์ ได้ออกมาแฉว่าตอนนี้เธอมีความคิดที่น่าสยดสยองเหลือเกิน เพราะลูกสาวคนเก่งของ บิลลี่ เรย์ ไซรัส คันทรีรุ่นใหญ่ มีแผนที่จะฝังซิลิโคนในหัวเพื่อให้เหมือนกับ "เดวิล ฮอร์น" หรือ "เขาซาตาน" นั่นเอง

โดย "อิน ทัช" นิตยสารระดับโลกในเมืองมะกัน เผยว่าเพื่อนสนิทของ ไมลี่ย์ แฉว่า
"เธอมีแนวโน้มที่จะฝังเขาซิลิโคนเอาไว้ในหัวของเธอ ไมลี่ย์ อยากที่จะให้เขาพวกนี้โผล่ออกมาเยอะๆ ให้มันเหมือนกับเขาซาตาน ! เลยก็ว่าได้"

นอกจากนี้ ไมลี่ย์ ยังเล็งที่จะตามแฟชั่นแบบเจ็บตัวด้วยการ "เจาะรัดตัว" (การเจาะรูใส่ห่วงเพื่อสามารถร้อยริบบิ้น, เชือก หรือ โซ่ ทำเหมือนกับใส่ชุดคอร์เซ็ต) "เธอสนใจที่จะเจาะรัดตัวด้วย เมื่อคุณเจาะรูใส่ห่วงที่สามารถใช้ร้อยเชือกอยู่รอบๆ กระดูกสันหลัง คุณสามารถร้อยริบบิ้นไขว้ไปมาผ่านรูพวกนั้น มันเป็นแฟชั่นที่เลียนแบบให้ดูเหมือนชุดคอร์เซ็ต" แหล่งข่าวเพื่อนคนเดิม ระบุ

เครดิตภาพ  therighthairstyles.com, www.polyvore.com
ที่มา สยามดารา

Tuesday, September 8, 2015

ฟิฟตี้ เซนต์ (50 Cent) ตกอับจนถึงขั้นไม่มีปัญญาจ่ายบิลค่าไฟ

ใครจะไปคิดว่าชีวิตของแร็พเปอร์ชื่อดังอย่าง ฟิฟตี้ เซนต์ ต้องมาเจอกับชีวิตตกอับขนาดนี้ ที่ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่สุดแสนจะยากลำบาก นับตั้งแต่ที่โดนฟ้องล้มละลาย ถึงขนาดที่เงินจะจ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟยังไม่มี


หลังจากที่ แร็พเปอร์ชื่อก้องโลก วัย 40 ปี ซึ่งมีชื่อจริงว่า เคอร์ติส เจมส์ แจ็คสัน เดอะ เธิร์ด โดนศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากศาลสั่งจ่ายค่าเสียหายให้ ลาโวเนีย เลวิสตัน แม่ของลูก ริค รอสส์ แร็พเปอร์ชื่อดังเป็นเงิน 3.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 160 ล้านบาท) โทษฐานที่เขาเอาคลิปวิดีโอที่เลวิสตันมีเซ็กซ์กับแฟนมาพากย์แบบหยาบคายแล้วโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ขออนุญาตเธอก่อน

ล่าสุด ''ทีเอ็มซี'' เว็บไซต์ข่าวสารวงการบันเทิงยอดฮิตรายงานว่า ฟิฟตี้ เซนต์ ได้ยื่นเรื่องเพื่อขอนำเงินไปชำระบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในบ้านของเขา ซึ่งมีเยอะแยะมากมาย รวมทั้งค่าไฟ, ค่าแก๊ส, ค่าเคเบิล ทีวี, ค่าอินเทอร์เน็ต, ค่าโทรศัพท์ และค่ากำจัดขยะ

จากเอกสารที่ยื่นต่อศาลของฟิฟตี้ เซนต์ ระบุกับผู้พิพากษาว่า เขาจำเป็นต้องใช้เงินจำนวน 10,597 ดอลลาร์ (ราว 349,701 บาท) เพื่อนำไปจ่ายค่าแก๊สกับค่าไฟ ส่วนเหตุผลที่เขามีค่าใช้จ่ายเยอะขนาดนี้ เป็นเพราะปัจจุบันอาศัยอยู่ในบ้านหรูบนพื้นที่ 50,000 ตารางฟุต ในคอนเนกทิคัต ซึ่งในอดีต ไมค์ ไทสัน ตำนานนักชกรุ่นเฮฟวี่เวตเป็นเจ้าของ

อนึ่ง ช่วงที่อยู่บนจุดสูงสุดของชีวิต ฟิฟตี้ เซนต์ สามารถขายอัลบั้มทั่วโลกได้ถึง 30 ล้านชุดด้วยกัน และโกยรางวัลมาประดับตู้โชว์ได้เป็นกอบเป็นกำ อาทิ รางวัลแกรมมี่ 1 รางวัล, รางวัลจากบิลบอร์ด มิวสิก อวอร์ดส์ 13 รางวัล เป็นต้น


เครดิตภาพ : www.posttoday.com

Friday, September 4, 2015

ลือหึ่ง เอ็มม่า โรเบิร์ตส์(Emma Roberts) หวนปลูกต้นรัก อีแวน ปีเตอร์ส(Evan Peters) อีกครั้ง

เป็นดังที่ว่าสิ่งที่แน่นอนที่สุด ก็คือ ความไม่แน่นอน ความรักก็เป็นเป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน ตอนแรกอาจจะรักกันดี แต่ผ่านไปสักพักมันก็อาจจะไม่หวานเหมือนเก่า หรือว่าตอนแรกอาจจะแยกทางกัน แต่สุดท้ายกลับมารักกันอีกครั้ง เมื่อ อัส สื่อบันเทิงชื่อดังรายงานว่า เอ็มม่า โรเบิร์ตส์ นักแสดงคนสวยได้กลับมาคบกับ อีแวน ปีเตอร์ส แล้ว


ย้อนความหลังกันสักหน่อยว่า โรเบิร์ตส์ กับ ปีเตอร์ส เริ่มคบหากันในปี 2012 ซึ่งหลังจากนั้นทั้งคู่ก็มีแต่สีชมพูอยู่ในชีวิตรัก จนสุดท้ายดูเหมือนว่าพร้อมจะอยู่ด้วยกันไปอีกนาน หลังจากที่หมั้นหมายกันแบบหวานแหววสุดๆ

โดยเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีข่าวสุดช็อก เมื่อมีการระบุว่าทั้งคู่ถอนหมั้นกันเป็นที่เรียบร้อย โดยสาเหตุสำคัญเป็นเพระทั้งคู่มีตารางงานรัดตัวชนิดที่ทำให้แทบไม่ได้เจอกันเลย แต่ล่าสุดคดีก็พลิกอีกครั้ง

''พวกเขาเพิ่งตัดสินใจที่จะลองปลูกต้นรักกันอีกสักตั้ง'' วงในระบุแบบสั้นๆ แต่ไม่ได้ชี้แจงอะไรมากไปกว่านั้น อาทิ เรื่องที่ทั้ง 2 คนกลับมาหมั้นกันรึเปล่า แต่มันก็สอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ที่บอกว่ามีคนเห็นทั้งคู่ควงแขนไปกินข้าวเย็นด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม หากทั้งคู่กลับมารักกันจริง ความรักของพวกเขาก็น่าจะมีความมั่นคงเหมือนในอดีต เพราะแหล่งข่าวเคยแฉว่าเดิมทีทั้งคู่ก็ไม่ได้ดราม่าใส่กันมากมายอะไรและยังแยกทางกันด้วยดีอีกต่างหาก

ที่มา สยามดารา
เครดิตภาพ : www.ibtimes.com, thaiza.com

Tuesday, September 1, 2015

มาดอนน่า(Madonna) ขอทุ่มสุดตัวหวังชนะใจ ฌอน เพนน์(Sean Penn)

หลังจากที่มีข่าว ฌอน เพนน์ กับ ชาร์ลิซ เธียร์รอน ได้แยกทางกัน มาดอนน่า ราชินีเพลงป็อป พร้อมทุ่มสุดตัวและหัวใจเพื่อหวังชนะใจ ฌอน เพนน์ นักแสดงมากฝีมืออีกครั้งให้ได้ เนื่องจากฝ่ายชายยังไม่มีสาวคนไหนเป็นตัวเป็นตนในเวลานี้

มาดอนน่า เคยแต่งงานกับเพนน์เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1985 หลังจากที่คบหาดูใจกันมาพักใหญ่ๆ แต่สุดท้ายปลายทางแห่งรักไม่เป็นไปอย่างที่ใจหวังเมื่อพวกเขาต้องหย่าขาดกันในปี 1989 อย่างไรก็ตาม มาดอนน่า ยังคงรู้สึกว่าดาราหนุ่มใหญ่วัย 54 ปีคือรักแท้ในชีวิตของเธอและอยากที่จะได้เขากลับคืนมา

เรื่องนี้เว็บไซต์ดังอย่าง RadarOnline.com ได้ทราบข่าวสุดมันว่า นักร้องสาวใหญ่เจ้าของเพลงฮอต ''Material Girl'' พยายามที่จะเอาชนะใจนักแสดงมากความสามารถวัย 55 ปีอย่างเต็มที่ โดยพร้อมทุ่มเททุกอย่างเพื่อจะได้หัวใจของเพนน์

แหล่งข่าววงในออกมาแฉว่า ''พวกเขาเคยไปไหนมาไหนด้วยกันเมื่อปีที่ผ่านมา มาดอนน่า หลงใหล เพนน์ มากๆ และพร้อมจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เขากลับมารักอีกครั้ง ไม่มีผู้ชายคนไหนเลยที่คอยปกป้องเธออย่างเต็มที่ มันน่าดีใจสำหรับเธอจริงๆ''

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มาดอนน่า สุดผิดหวังที่ทราบข่าวว่า เพนน์ กำลังปลูกต้นรักกับ ชาร์ลิซ เธียร์รอน ดาราสาวใจบุญ แต่จากข่าวล่าสุดที่การยืนยันแล้วว่าทั้งสองคนแยกทางกันแล้ว ซึ่งนั้นทำให้ป็อปสตาร์วัย 57 ปี กระดี๊กระด๊าเต็มที่เนื่องจากเธอมีลุ้นที่จะเอาชนะใจอดีตสามี
''เธอส่งของขวัญไปให้เขาเรื่อยๆ และยังมีข้อความเยอะแยะ แน่นอนว่านี่เป็นช่วงเวลาที่สุดสำคัญก่อนที่เขาจะกลับมาเข้มแข็ง'' แหล่งข่าวอีกราย ระบุ

จะว่าไปแล้วนี่ไม่ใช่แค่ข่าวเม้าท์เฉยๆ เพราะเมื่อไม่นานมานี้เพื่อนสนิทของ มาดอนน่า ยืนยันว่า ราชินีเพลงป็อปหวังจะสานสัมพันธ์รักกับเพนน์ให้ได้
''มาดอนน่าคิดว่า ฌอน มีความเป็นผู้ใหญ่ และสิ่งนั้นทำให้เขาสามารถรับมือกับความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ได้ดี เธอบอกว่าเธอเคยมีความสัมพันธ์มากมายทั้งดีและแย่ แต่เธอรู้ว่าฌอนคือรักแท้ในชีวิตของเธอ เขาไม่เคยหายไปจากหัวใจของเธอ และเธอบอกว่าเธอต้องเอาเขากลับมาให้ได้ก่อนที่มันจะสายเกินไป''

ที่มา สยามดารา
เครดิตภาพ pagesix.com,  billboard.com, jwcey.com, nangdee.com, manager.co.th